
เจาะลึก TPAT1 ปี 69
ตุลาคม 7, 2025
สวัสดีครับน้อง ๆ ทุกคน ใครที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้าสอบวิชาความถนัดแพทย์ปี 69 อยู่ บทความนี้พี่แม็คจะพามานั่งคุยกันแบบละเอียด ๆ เลยว่าข้อสอบความถนัดแพทย์ออกอะไรบ้าง ยากตรงไหน และต้องเตรียมตัวยังไงให้สอบผ่าน
📌 ถ้าพร้อมแล้ว เลื่อนอ่านกันต่อได้เลยครับ (หรือถ้าใครอยากดูคลิปก็จิ้มด้านล่างนี้ได้เลย พี่แม็คสรุปให้ครบ)
ไม่ว่าน้องจะเพิ่งเริ่มต้น หรือสอบมาแล้ว บล็อกนี้พี่แม็คจะพาไปเจาะลึกทุกพาร์ตแบบละเอียดอิงตามตามข้อสอบปีล่าสุด (ปี68) แบบครบถ้วน ปะ เดี๋ยวเราเริ่มกันเลยค้าบ แต่ก่อนอื่นเลยพี่แม็คอยากให้น้อง ๆ ทำความรู้จัก TPAT1: วิชาความถนัดแพทย์ที่น้อง ๆ สายแพทย์ต้องรู้ก่อนสอบกันก่อนเลย

หลายคนอาจเข้าใจว่า “ข้อสอบความถนัดแพทย์” ออกโดย ทปอ. หรือ TCAS แต่จริง ๆ แล้วข้อสอบ TPAT 1 หรือความถนัดแพทย์ที่เรารู้จักกัน จะออกโดย กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้ออกข้อสอบเองทั้งหมด และจัดสอบแยกจากวิชาอื่นเลย ปล. กสพท. คืออะไรพี่แม็คได้อธิบายไว้แล้วใน “สรุปจุดสำคัญ TPAT1 กสพท69” น้อง ๆ สามารถเข้าไปอ่านได้น้า
TPAT 1: วิชาความถนัดแพทย์ แบ่งออกเป็น 3 พาร์ตหลัก ๆ ได้แก่
1. พาร์ตเชาวน์ปัญญา วัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ตรรกะ และความเข้าใจในเชิงเหตุผล คล้าย ๆ กับพวก IQ Test แต่ระดับที่ออกสอบจะซับซ้อนและต้องใช้การคิดแบบลึกขึ้นกว่าเดิม
2. พาร์ตจริยธรรมแพทย์ ส่วนนี้จะทดสอบว่าน้องมีพื้นฐานความคิด ทัศนคติ และการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไร โดยเฉพาะในฐานะว่าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อชีวิตคนอื่น
3. พาร์ตการเชื่อมโยง ทักษะการอ่านจับใจความ วิเคราะห์ความสำคัญของข้อมูลในบทความยาว ๆ และสามารถเชื่อมโยงประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ
รูปแบบการสอบ
การสอบวิชาความถนัดแพทย์จะสอบแบบกระดาษเท่านั้น ไม่มีสอบผ่านคอมและจะสอบทีละพาร์ต มีเวลาพักระหว่างพาร์ตด้วยนะ โดยจะสอบพาร์ตเชาวน์ปัญญาก่อนแล้วพัก 15 นาทีและสอบต่อด้วยพาร์ตจริยธรรมพักอีก 30 นาที และสอบพาร์ตสุดท้าย พาร์ตการเชื่อมโยง
TIMELINE TPAT1: ความถนัดแพทย์ปี 69

สำหรับน้อง ๆ ที่เตรียมสอบ TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ ปีการศึกษา 2569 ตอนนี้ทาง กสพท. ได้ประกาศ กำหนดการสอบอย่างเป็นทางการ ออกมาแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
• 📌 สมัครสอบ : 1 – 20 ตุลาคม 2568
• 📝 วันสอบจริง : 14 กุมภาพันธ์ 2569
• 📊 ประกาศผลสอบ : 13 มีนาคม 2569
จากกำหนดการปีนี้จะเห็นว่า ช่วงสมัครสอบเลื่อนออกไปช้ากว่าที่หลายคนคาดไว้ ไม่ได้อยู่ต้นเดือนกันยายนเหมือนปีก่อน ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ที่เล็งสอบ TPAT1 ต้องวางแผนให้ดี ทั้งเรื่องการจัดการเวลาและการเตรียมตัวสอบ
จุดที่น่าสนใจคือ วันสอบจริงตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งถือว่าอยู่หลังการสอบ TGAT และก่อนการสอบ A-Level หลายสัปดาห์พอดี ทำให้น้อง ๆ สามารถโฟกัสกับ TPAT1 ได้เต็มที่หลังสอบ TGAT ไปแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าต้อง บริหารเวลาอ่านควบคู่กับ A-Level ไปด้วย
สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือ TPAT1 เป็นข้อสอบที่ไม่อิงกับวิชาในโรงเรียนโดยตรง เนื้อหาจะวัดการคิดวิเคราะห์ เหตุผล และการแก้ปัญหา น้อง ๆ จึงต้องอาศัยการฝึกฝน การทำข้อสอบซ้ำ ๆ และการซ้อมจับเวลาเพื่อให้คุ้นกับรูปแบบข้อสอบจริง
ผลสอบจะประกาศในวันที่ 13 มีนาคม 2569 ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการยื่น TCAS69 รอบต่าง ๆ ที่จะเริ่มเปิดหลังจากนั้น
ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก่อนสอบจริง พี่แม็คอยากให้น้อง ๆ เริ่มจัดตารางอ่านหนังสือและฝึกทำข้อสอบอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ เพราะการสอบ TPAT1 ไม่ได้วัดแค่ความรู้ แต่ยังวัดความแม่นยำ การคิดวิเคราะห์ และความคุ้นชินกับข้อสอบ ใครที่เริ่มฝึกก่อนและทำต่อเนื่อง จะได้เปรียบอย่างมากในสนามจริงแน่นอน
สถิติย้อนหลัง TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ ปี 60 - 68

ต่อมาพี่แม็คจะพาน้อง ๆ ไปดูสถิติย้อนหลังของคะแนน TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ ตั้งแต่ปี 2560 - 2568 กันครับ จะได้เห็นแนวโน้มและระดับความยากของข้อสอบแต่ละปี
จากสถิติจะเห็นได้ว่าปีที่มีค่าเฉลี่ยคะแนนต่ำที่สุดคือ ปี 2564 ซึ่งค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 133 คะแนนเท่านั้น นั่นแปลว่า ข้อสอบปีนั้นยากมาก รองลงมาคือ ปี 2568 (ปีล่าสุด) ที่มีค่าเฉลี่ย 137 คะแนน ซึ่งก็ต่ำเช่นกันแสดงว่าแนวข้อสอบปีล่าสุดนี่ก็จัดว่า “โหดใช้ได้เลย” โดยเฉพาะในพาร์ตการเชื่อมโยงที่พี่แม็คให้เป็นพาร์ตสุดหินของปีนี้เลยครับ
นอกจากนี้ คะแนนสูงสุดของปี 2568 ยังพุ่งไปถึง 255.75 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมากเลยแสดงว่าน้องที่ได้คะแนนนี้เตรียมตัวมาดีจริง ๆ
หมายเหตุ: ปี 2567 ที่พี่แม็คทำเครื่องหมายดอกจันไว้ เพราะปีนั้นข้อสอบพาร์ตเชาวน์ปัญญามีปัญหา กสพท. เลยตัดคะแนนส่วนนั้นออก ทำให้คะแนนเต็มเหลือแค่ 200 ซึ่งเทียบกับปีอื่นไม่ได้
เจาะลึกคะแนน TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ ปีล่าสุด (แยกตามพาร์ตแบบละเอียด)
หลังจากที่เราดูภาพรวมคะแนนสอบ TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์กันไปแล้ว ทีนี้พี่แม็คจะพาน้อง ๆ มาเจาะลึกคะแนน แต่ละพาร์ตของข้อสอบ TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ปี 2568 ซึ่งปีล่าสุดนี้ถือว่าเป็นปีที่ ท้าทายไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในพาร์ตสุดท้ายที่พี่แม็คคิดว่าโหดจริง
ฉบับที่ 1: พาร์ตเชาวน์ปัญญา คะแนนเฉลี่ยทั่วประเทศ 40 คะแนน
ฉบับที่ 2: พาร์ตจริยธรรม คะแนนเฉลี่ยทั่วประเทศ 46 คะแนน
ฉบับที่ 3: พาร์ตการเชื่อมโยง คะแนนเฉลี่ยทั่วประเทศ 50 คะแนน
รวมคะแนนเฉลี่ยทั้ง 3 พาร์ต: 137 คะแนน

ซึ่งถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับคะแนนเต็มทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าปีนี้ข้อสอบ “ไม่ธรรมดา” จริง ๆ จะเห็นเลยว่าคะแนนเฉลี่ยในพาร์ตนี้ลดลงเรื่อย ๆ จนปีล่าสุด พาร์ตการเชื่อมโยงตกมาเหลือเพียง 50 คะแนน ซึ่งถือว่า ต่ำที่สุดในรอบหลายปี และแน่นอนครับ พี่แม็คลองดูข้อสอบเองแล้วก็ต้องบอกตรง ๆ เลยว่า “โคตรโหด” ต่อไปเรามาเจาะลึก TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ปี 2568 กันว่าแต่ละพาร์ตออกอะไรกันบ้าง
พาร์ตเชาวน์ปัญญา
ในข้อสอบ TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ พาร์ตแรกที่น้อง ๆ จะได้เจอก็คือ “พาร์ตเชาวน์ปัญญา” ซึ่งถือว่าเป็นด่านแรกที่ใช้วัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างแท้จริง พี่แม็คขอบอกไว้เลยว่าพาร์ตนี้ “ไม่หมู” เพราะน้องจะต้องใช้สมาธิ ความเร็ว และความแม่นยำในเวลาที่จำกัด
โดยในปีล่าสุด ข้อสอบพาร์ตนี้มีทั้งหมด 45 ข้อ ใช้เวลาทำ 75 นาที ซึ่งถือว่าเป็นพาร์ตที่ใช้เวลามากที่สุดในบรรดา 3 พาร์ตของ TPAT1 เลย เพราะข้อสอบหลากหลายแนว ต้องใช้การตีความและวิเคราะห์ค่อนข้างเยอะ

ปี 2568 ข้อสอบพาร์ตเชาวน์ปัญญาออกมาหลากหลายมาก เริ่มจาก “ข้อสอบแนวอนุกรม” ซึ่งเป็นการให้ตัวเลขมาเป็นชุด แล้วถามว่าตัวถัดไปคืออะไร ออกมา 2 ข้อ แม้จะดูเหมือนง่าย แต่ของจริงจะซับซ้อนกว่าตัวอย่างที่เจอบ่อย ๆ มาก ถัดมาคือ “มิติสัมพันธ์” ที่เน้นภาพและการมองเชิงสามมิติ ออกมาทั้งหมด 4 ข้อ อันนี้ต้องใช้การสังเกตและจินตนาการสูง ส่วน “แนวตรรกศาสตร์และวิเคราะห์เงื่อนไข” ก็จัดหนักมาถึง 9 ข้อ ต้องอ่านสถานการณ์ วิเคราะห์เงื่อนไข และหาความสัมพันธ์เชิงตรรกะให้ได้ อีกหมวดหนึ่งที่ออกเยอะมากคือ “คณิตศาสตร์แนวแพทย์” ซึ่งในปีล่าสุดออกมา 12 ข้อเต็ม ๆ เนื้อหาที่เจอมีทั้งอัตราการทำงาน, ความน่าจะเป็น, กราฟ scatter, สถิติ และค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะ “ค่าเฉลี่ย” ที่ปีนี้ออกเยอะเป็นพิเศษ น้องคนไหนไม่แม่นตรงนี้ บอกเลยว่ามีโซนน้ำตาซึมแน่นอนฝึกฝนกันเยอะๆน้า สุดท้ายคือ “ภาษาไทยแนวจับใจความ” ซึ่งปีล่าสุดออกถึง 18 ข้อ พาร์ตนี้จะให้บทความมายาว ๆ แล้วถามว่าย่อหน้าพูดถึงอะไร หัวข้อหลักคืออะไร หรือบทความนี้ต้องการสื่ออะไร เรียกได้ว่าต้องอ่านเร็ว เข้าใจไว และจับประเด็นให้แม่นกันเลยทีเดียว
ควรต้องเตรียมตัวยังไงกับพาร์ตนี้ดี
สิ่งสำคัญที่สุดที่พี่แม็คอยากเน้นย้ำเลยก็คือ “สัดส่วนข้อสอบของแต่ละแนวในพาร์ตเชาวน์ปัญญาไม่แน่นอน” บางปีแทบไม่มีอนุกรมเลย บางปีคณิตศาสตร์แนวแพทย์ออกเกือบครึ่ง บางปีภาษาไทยออกน้อย บางปีกลับกลายเป็นพาร์ตหลัก เพราะฉะนั้น การเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือ “ฝึกให้ครบทุกแนว” อย่าไปคาดเดาแนวข้อสอบว่าปีของเราจะออกอะไรน้อยหรือไม่ออก เพราะไม่มีใครรู้ และแนวที่เรามองข้าม อาจเป็นตัวชี้วัดคะแนนเลยก็ได้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว พี่แม็คหวังว่าน้อง ๆ จะเริ่มมองเห็นภาพของพาร์ตเชาวน์ปัญญาชัดเจนมากขึ้น ถ้าใครอยากได้เทคนิคการทำโจทย์ให้เร็วขึ้น หรืออยากให้พี่แม็คช่วยสรุปเนื้อหาคณิตแนวแพทย์เพิ่มเติม สอบถามแอดมินปรึกษาช่วยกันหาทางแก้ไขได้เลยน้า
พาร์ตจริยธรรม
หลังจากฝ่าด่านพาร์ตเชาวน์ปัญญากันมาแล้ว เราก็มาต่อกันที่ พาร์ตจริยธรรม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพาร์ตที่ อยู่ใน TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์และหลายคนอาจมองข้าม แต่พี่แม็คอยากจะย้ำไว้ตรงนี้เลยว่า “พาร์ตนี้สำคัญมาก” เพราะไม่ได้วัดแค่ความรู้ แต่กำลังวัด “หัวใจ” และ “เจตคติ” ของน้อง ๆ ที่จะมาเป็นแพทย์ในอนาคต
ข้อสอบพาร์ตจริยธรรมมีทั้งหมด 55 ข้อ และให้เวลาทำ 60 นาที เท่านั้น ต่างจากพาร์ตเชาวน์ปัญญาที่มีเวลามากกว่า นั่นหมายความว่าเราต้อง “คิดเร็ว ตัดสินใจให้ไว แต่ไม่วู่วาม” เพราะโจทย์แต่ละข้อคือสถานการณ์ที่ใกล้ตัวมาก และต้องใช้หลักจริยธรรมในการพิจารณา

ข้อสอบมี 2 แนวหลัก ๆ
1. แนวจริยธรรมแพทย์พื้นฐาน เน้นหลักคุณธรรม จริยธรรมของวิชาชีพแพทย์ เช่น เรื่องของใบรับรองแพทย์ การรักษาความลับผู้ป่วย หรือความเท่าเทียมในการดูแลรักษา
2. แนวเหตุการณ์ปัจจุบันสังคม เน้นสถานการณ์ทางสังคมที่ชวนตั้งคำถามด้านศีลธรรมและความถูกต้อง เช่น การกระทำในยามคับขัน การขโมยของบริจาค หรือการตัดสินใจที่ขัดกับกฎหมายแต่เหมือนมีเหตุผลรองรับ
ตัวอย่างโจทย์ TPAT1 พาร์ตจริยธรรมทางการแพทย์ แนวจริยธรรมแพทย์พื้นฐาน
พลอยมีฐานะยากจน ต้องเลี้ยงดูลูกด้วยตัวคนเดียวเพราะสามีได้ทิ้งไป พลอยมีอาการปวดท้องอยู่บ่อย ๆ จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาล จากการตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร จึงขอให้นายแพทย์เต๋าช่วยเขียนใบรับรองแพทย์ว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบแทน เพราะเธอต้องการเบิกเงินประกันจากบริษัทประกัน แต่ถ้าหากแจ้งว่าเป็นโรคมะเร็ง บริษัทประกันจะไม่ให้เบิกเงินประกัน ถ้าหากท่านเป็นนายแพทย์เต๋า ควรทำอย่างไร
1. แจ้งพลอยว่าให้ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นอีกครั้งหนึ่ง เผื่อจะได้ผลตามที่ต้องการ
2. ปฏิเสธการเขียนใบรับรองแพทย์อันเป็นเท็จให้พลอย และแนะนำให้ลองไปพบแพทย์คนอื่นแทน
3. ปฏิเสธการเขียนใบรับรองแพทย์อันเป็นเท็จให้พลอย เพราะว่าผิดจรรยาบรรณ
4. สงสารพลอยเพราะต้องเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว จึงยอมเขียนว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ 
5. แจ้งพลอยว่าตนเขียนใบรับรองแพทย์ตามความเป็นจริง และแอบนำเรื่องนี้ไปแจ้งบริษัทประกัน
คำตอบ ข้อ 3 ปฏิเสธการเขียนใบรับรองแพทย์ที่เป็นเท็จ เพราะเป็นการผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ และจะต้องเขียนตามความจริงเท่านั้น
เห็นไหมครับว่า ข้อนี้แม้จะดูเหมือน “มีน้ำใจช่วยเหลือ” แต่ก็ต้องยึดหลักความจริงและจรรยาบรรณไว้ก่อนเสมอ ส่วนแนว “เหตุการณ์ปัจจุบันสังคม” ก็โหดไม่แพ้กันเช่น
 • เพื่อนหวังจะมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนอีกคน
• คนอาสาไปช่วยน้ำท่วม แต่แอบขโมยของบริจาคเพราะ “ของบริจาคเหลือเยอะ”
• เด็กวัดขโมยเงินวัดไปช่วยเด็กกำพร้า
• น้องกำลังจะไปสอบสาย แล้วเห็นว่าถนนโล่งแต่ติดไฟแดงอยู่ น้องตัดสินใจจะข้ามถนนเลยไหม
โจทย์แบบนี้ไม่ได้มี “ถูก ผิดตายตัว” แบบเลขหรือวิทยาศาสตร์ แต่ต้องอาศัย “หลักคิดเชิงจริยธรรม” อย่างมีเหตุผล เช่น ความซื่อสัตย์ การเคารพกฎ การไม่เอาเปรียบสังคม การรับผิดชอบต่อผลลัพธ์
ควรต้องเตรียมตัวยังไงกับพาร์ตนี้ดี
พี่แม็คขอแนะนำว่าให้น้อง ๆทบทวน “จรรยาบรรณแพทย์” พื้นฐาน เช่น ข้อมูลจากแพทย์สภา หมั่นฝึกคิดวิเคราะห์สถานการณ์รอบตัวด้วยมุมมองจริยธรรม ฝึกทำข้อสอบเก่าหรือแนวสถานการณ์สมมุติบ่อย ๆ
พาร์ตเชื่อมโยง
เข้าสู่โค้งสุดท้ายของ TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์กันแล้วกับพาร์ตสุดท้าย “พาร์ตเชื่อมโยง” หรือที่หลายคนขนานนามว่า “บทความเดียวเปลี่ยนชะตา” เพราะทั้งพาร์ตมีให้ทำแค่ 1 บทความ แต่ใช้เวลา 60 นาทีเต็ม และที่สำคัญ คะแนนพาร์ตนี้มีผลต่ออันดับไม่แพ้พาร์ตอื่นเลย

ปี 2568 ถือเป็นปีที่ข้อสอบพาร์ตเชื่อมโยงออกยากเป็นพิเศษ พี่แม็คพูดตรง ๆ เลยว่า “ตั้งแต่ติวมา ปีนี้โหดสุด” เพราะบทความที่ออกคือเรื่อง “ความเครียดเรื้อรัง” ซึ่งแม้จะดูไม่ซับซ้อนในชีวิตจริง แต่เมื่อมาอยู่ในข้อสอบ กลับมีประเด็นให้เชื่อมโยงหลายชั้น ซับซ้อน และมีคำที่ทำให้คนอ่านหลงประเด็นได้ง่ายมาก ซึ่งก็สะท้อนออกมาในคะแนนเฉลี่ยของพาร์ตเชื่อมโยงที่ปีล่าสุด ซึ่ง “ต่ำสุดในรอบ 8 ปี”
ควรต้องเตรียมตัวยังไงกับพาร์ตนี้ดี
ถ้าน้องยังไม่มีพื้นฐานพาร์ตนี้เลย พี่แม็คแนะนำให้ เริ่มจาก GAT เชื่อมโยง ก่อนเลยเพราะโครงสร้างคล้ายกันมาก เป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับฝึกการอ่านจับความสำคัญ นอกจากนี้ พี่แม็คมี คลิปติวฟรี ให้น้องเข้าไปฝึกได้เลยที่ช่องของพี่แม็คบน YouTube มีทั้ง “คลิปปูพื้นฐาน” ไปจนถึง “ตะลุยข้อสอบจริง” เลย

ต่อมาตั้งเป้าหมายคะแนน TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์กันหน่อย เริ่มจาก พาร์ตเชาวน์ปัญญา พี่แม็คอยากให้น้อง ๆ ทุกคนตั้งเป้าไว้ มากกว่า 50 คะแนน เอาให้เกินครึ่งไว้ก่อน ส่วนพาร์ตจริยธรรมก็เช่นเดียวกัน พาร์ตเชื่อมโยง หลายคนเห็นเป้าหมายแล้วอาจจะตกใจ เพราะพี่แม็คอยากให้น้องตั้งไว้ที่ มากกว่า 90 คะแนน
บางคนอาจจะร้อง “โห พี่แม็คเชื่อมโยงมากกว่า 90 จะไหวหรอ?” พี่แม็คบอกเลยว่า “ไหวครับ” เพราะเชื่อมโยงเป็นพาร์ตเดียว ที่น้องสามารถหวังคะแนนเต็ม 100 ได้จริง ๆ ในขณะที่พาร์ตเชาวน์ปัญญาและจริยธรรมนั้นตั้งแต่มีการสอบ TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์มาไม่เคยมีใครได้เต็ม 100 เลยสักคนเดียว แต่เชื่อมโยง 100 เต็ม มีครับและมีไม่น้อยเลย น้องสามารถดูรีวิวจากลูกศิษย์ใน IG พี่แม็คได้เลยน้า
เพราะฉะนั้น ถ้าน้องฝึกเยอะ ๆ ทำข้อสอบบ่อย ๆ เรียนรู้จากจุดผิดพลาดของตัวเอง พี่แม็คเชื่อเลยว่า น้องก็ทำได้แน่นอนเชื่อมโยง 100 เต็ม ไม่ไกลเกินเอื้อม
สรุปเป้าหมาย TPAT1 วิชาความถนัดแพทย์ พี่แม็คอยากให้น้องทุกคนตั้งไว้ คือ 190 คะแนนขึ้นไป แต่ถ้าได้มากกว่านั้นยิ่งดี เช่น 210 ++ เพราะคะแนนยิ่งสูง ยิ่งดีเลยแต่อย่างหนึ่งที่สำคัญคือ พี่แม็คไม่อยากให้น้องกดดันตัวเองมากเกินไป “ตั้งไว้ 190+ เป็นหลัก แต่ถ้าได้มากกว่านี้ถือเป็นโบนัส” จะได้มีแรงฮึด แต่ไม่รู้สึกว่าแบกอะไรหนักเกินไป และพี่แม็คเชื่อว่าน้องทำได้แน่นอนน้องสามารถดูรีวิวรุ่นพี่ DEK68 ลูกศิษย์พี่แม็คเองไว้เป็นกำลังใจได้เลยน้า สู้ๆ^^


 
 


